ลำดับขั้นในการสวดมนต์ในแต่ละวัน

ลำดับขั้นในการสวดมนต์ในแต่ละวัน

บทสมาทานศีล

1) คำบูชาพระ (รับศีล)
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ (สวดคนเดียวลงด้วย "มิ" แต่สวดหลายคนเปลี่ยนเป็น "มะ")
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

2) คำนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ...ต้องกราบให้ประณีตศรีษะติดพื้น ไม่ใช่รีบก้มรีบเงย)
สะวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

3) คำอาราธนาศีล 5
อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ
ทุติยัมปิ อะหังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ
ตะติยัมปิ อะหังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ

4) คำนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

5) ไตรสรณคมณ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

6) คำสมาทานศีล 5
1) ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
2) อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
3) กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
4) มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
5) สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฎฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(หากใครจะสวดเพิ่มศีลข้ออื่นย่อมดีไม่มีปัญหาครับ)

= จบสมาทานศีลก่อน ค่อยสวดบทอื่นๆ จบท้ายด้วยแผ่เมตตา =

คำนมัสการ ถวายพรพระ ( อิติปิโส )  พระพุทธคุณ  ธรรมคุณ  สังฆคุณ
อิติปิ   โส   ภะคะวา   อะระหัง   สัมมาสัมพุทโธ   วิชาชาจะระณะสัมปันโน   สุคะโต   โลกะวิทู   อะนุตตะโร   ปุริสะทัมมะสาระถิ   สัตถา   เทวะมะนุสสานัง   พุทโธ   ภะคะวาติ    ( พุทธคุณ )
สวากขาโต   ภะคะวะตา   ธัมโม   สันทิฏฐิโก   อะกาลิโก   เอหิปัสสิโก   โอปะนะยิโก   ปัจจัตตัง   เวทิตัพโพ  วิญญู***ติ   ( ธรรมคุณ )
สุปะฏิปันโน   ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ   อุชุปะฏิปันโน   ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ   ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ   สามีจิปะฏิปันโน   ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ   ยะทิทัง   จัตตาริ   ปุริสะยุคานิ   อัฏฐะ  ปุริสะปุคคะลา   เอสะภะคะวะโต    สาวะกะสังโฆ    อาหุเนยโย   ปาหุเนยโย   ทักขิเณยโย   อัญชะลีกะระณีโย   อะนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง   โลกัส   สาติ   (สังฆคุณ)

คำขอขมาพระรัตนตรัย
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่านได้โปรดงดเว้นโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

คำแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง  
(การที่เราจะแผ่เมตตาให้ใคร ให้จดจำเสมอว่า เราต้องให้เราก่อน เมื่อเรามีบุญเราจึงให้คนอื่นได้ครับ)
อะหัง สุขิโต โหมิ                  ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ              ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากทุกข์
อะหัง อเวโร โหมิ                  ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ          ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากความลำบาก
อะหัง อะนีโฆ โหมิ                 ขอให้ข้าพเจ้าจงปราศจากอุปสรรค
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ          จงรักษาตนให้มีความสุขตลอดกาลนานเทอญ

คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น 
(พอขึ้นสัพเพ สัตตา วิญญาณของสัตว์ที่เรากินไปในแต่ละวันก็จะไปเกิดในทันทีไม่เกาะตามเนื้อตัวเราแล้วครับ) 
สัพเพ สัตตา                  สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ                 จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ          จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ                 จงเป็นสุข เป็นสุขเถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ    จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ 
(สวด 3 จบ บทนี้ขอให้ปัญญาทางธรรมจงเกิดกับเรา ขาดไม่ได้เช่นกัน)

พอจบการสมาทานศีล 5 ก็เข้านอนได้เลย หรือใครอยากสวดมนต์บทใด ๆ นอกเหนือจากนี้ 
ให้สวดแทรกไปก่อนจะ "แผ่เมตตาให้ตัวเอง" พอสวดเสร็จก็แผ่เมตตาให้ตัวเองและแผ่ให้ผู้อื่น 
จากนั้น หากใครประสงค์จะนั่งสมาธิ ก็ให้ขอพระกรรมฐานก่อนทุกครั้งแล้วนั่งสมาธิในระยะเวลาสั้น ๆ 
อย่านั่งนานเพราะระยะเวลาไม่ช่วยให้ท่านได้บุญมากเท่ากับการนั่งแล้วกำหนดรู้สติของเราได้ตลอดต่อเนื่อง 
(อยู่กับลมหายใจ)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขั้นตอนการบวชชีพราหมณ์ / เนกขัมมะที่วัดสังฆทาน และการลาสิกขา

วิธีลดไขมันรอบเอว ไขมันส่วนเกิน

8 ลักษณะเด่นของผู้หญิงที่กำราบ 'ผู้ชายเจ้าชู้' ได้อยู่หมัด!!