บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2012

นิสัยเสีย10ข้อที่ต้องเลิก เพื่อประคองรักให้ยืนยาว

เราจะมาเม้าท์กันถึงว่า มีการกระทำใดบ้างที่ทำให้คนซึ่งรักกันแทบตาย ต้องเลิกร้างกันไปในที่สุด บางทีอาจไม่ใช่ความผิดของใคร แต่เป็นเพียงความไม่ลงตัวซึ่งถูกค้นพบเมื่อสายนั่นเอง  และจากข้อมูลที่ได้ค้นคว้ามีรายงานเกี่ยวกับตัวอย่างนิสัยที่ไม่ควรนำมาใช้กับคนรักโดยระบุไว้ 10 ข้อ คือ  1. เอาแต่ใจตัวเอง  ความจริง คนทุกคน ก็เอาแต่ใจตัวเอง ด้วยกันทั้งนั้น เพราะมันคง เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะเอาแต่ใจคนอื่น อยู่ฝ่ายเดียว นี่เป็นเหตุผลที่จริงที่สุด แต่การเอาแต่ใจตัวเอง ของคนแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมาก บางคนน้อย บางคนคิดว่าตัวเองน้อย แต่ความจริงแล้วมาก เรื่องแบบนี้ ไม่ยากที่จะตัดสิน แต่ก็ไม่ง่ายที่จะวางมาตรฐาน อันแน่นอนไว้ แต่มีข้อ สังเกตง่ายๆ ให้ สำหรับคน ที่ต้องการ ตรวจสอบ ตัวเอง  ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณอยากดูหนัง เรื่องนี้ แต่เขาอยากดูเรื่องอื่น คุณก็จะไม่ยอม และยืนยัน ว่า จะต้องเป็นเรื่องนี้เท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็ไม่ต้องไปดูกัน หรือ มีบางวัน ที่เขาอยากไปไหน กับเพื่อนๆ อาจจะแค่ ไปเล่นกีฬา ที่ไหนสักแห่ง หรือไปไหน ต่อไหน ก็ตามโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับ แต่คุณ กลับไม่ยอม เพราะไม่อยากให้เ

แน่ใจได้อย่างไรว่าเขาไม่หลอก

ตอนนี้คุณกำลังหลงรักเขาหน้ามืดตามัว แล้วเขาก็อาจเป็นคนที่ถูกใจใช่เลยสำหรับคุณจริงๆน่ะแหละ แต่จะทำยังไงดีถ้าชายเดียวในดวงใจ กลับเห็นคุณเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งของเขา เขาจะมีคนอื่นมั้ย ซึ่งเป็นคำถามที่พวกผู้หญิงมักถามตัวเองในบางช่วงชีวิตแล้ว “ เขาจะมีคนอื่นมั้ย ” ก็เป็นคำถามยอดฮิตอีกอย่างหนึ่งเมื่อความสัมพันธ์ดำเนินมาพักหนึ่ง  นักจิตวิทยาส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่ามีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่จะช่วยบอกได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนหลอกลวง หรือไม่ (ภายใน 5 ปี) ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจ ลองเปรียบเทียบดูกับสัญญาณเตือน 10 ข้อต่อไปนี้ เชื้อไม่ทิ้งแถว ความโกหกหลอกลวงก็เป็นมรดกตกทอดจากคนรุ่นพ่อ  นักจิตวิทยาเชื่อว่าผู้ชายมักจดจำและเรียนรู้ประสบการณ์ความไม่ซื่อสัตย์จากพฤติกรรมของพ่อแม่ตั้งแต่วัยเด็ก ตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อของเขาเกิดนอกใจ แต่แม่ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือให้อภัยแต่โดยดี ผู้ชายคนนั้นก็อาจเชื่อว่าความไม่ซื่อสัตย์นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างหนึ่ง “ ผู้ชายอาจใช้ความเจ้าชู้ของพ่อมาเป็นข้ออ้างสำหรับพฤติกรรมของตนเอง ”  “ แต่อีกด้านหนึ่ง ถ้าพฤติกรรมของพ่อทำให้แม่เสียใจมากๆ ผู้ชายคนนั้นก็อาจเลือก

เกิดเป็นหญิงจะจีบก่อนได้ไหม

โอ๊ย.. คำถามเสียดแทนใจ เจอคนถูกใจทีไรก็ได้แต่อึ้งกิมกี่ เมียงมองแล้วเดินรี่จากไป มาวันนึงเกิดนึกขึ้นได้ว่าขืนปล่อยไปแบบนี้ไม่มีทางหาแฟนแหงๆ ตอนยังสาวยังแส้ก็พอจะเล่นองค์โก่งราคาไหว แก่ตัวไปก็สู้สาวๆ ไม่ได้กันพอดี โอว..ว ไม่นะ ไปดีกว่า ไปหาวิธีจีบหนุ่มๆกันเดี๋ยวนี้ (ก่อนจะหลุดมือ) ด้วยนิสัยกุลสตรีที่มีมาแต่อ้อนแต่อกคงไม่สามารถไม่อ่อยใครได้ หรือถ้าได้ก็คงไม่มีเชิง เสียฟอร์มตายเลย และแล้วก็บังเกิดปัญญาที่เพื่อสาวทรงสเน่ห์บอกมาเรียกว่าบริจาคเป็นวิทยาทานว่า "การจีบหนุ่ม" ที่ดีและมีฟอร์มเริ่ดน่ะเป็อย่าไร จึงแอเอามาเล่าเผื่อสาวใสที่กำลังกลุ้มใจเพราะแอบปิ๊งสุดหลุ่อ จะจีบก็ไม่กล้า คอยท่าปล่อยทิ้วไว้ก็อด! แต่ที่สำคัญต้องแล้วแต่สถานการณ์ไม่มีอะไรตายตัวแต่พอบอกเป้นไกด์ไลน์ได้บ้างหากแอบชอบเพื่อน+คนใกล้ตัว : ปัญหาโลกแตกแล้วล่ะเจอกันบ่อย ในเมื่อเป็นคนรู้จักจงสืบเสาะหาข้อมูลให้แน่แก่ใจว่าเค้ามีแฟนหรือยัง หากมีแล้วก็ทำใจ ความหวังริบหรี่ แต่ถ้ายังจงประเมินตัวเองว่า เค้ามีทีท่ายังไงกับเรา หากพอเป็นไปได้ก็เริ่มเลย 1. หาทางชิดใกล้ให้ดูเหมือนไม่จงใจ เช่น หากเค้าเรียนดีก็แกล้งขอให้เค้าติว

25 โรแมนติกไอเดีย

สำหรับช่วงเวลาพิเศษกับคนพิเศษของคุณ 1.     เริ่มต้นด้วยพื้นฐานเลย  คือ  ส่งดอกไม้  แบ่งขนมขบเคี้ยว  ให้ตุ๊กตายัดนุ่น  เล่นซีดีเพลงรักหวานฉ่ำ  ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ให้แหวนหรือเครื่องประดับในโอกาสพิเศษ 2.     ชนแก้วอวยพรทุกครั้งที่ดื่มแชมเปญด้วยกัน 3.     ตื่นแต่เช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน 4.     เรียนรู้ว่าคนรักของคุณชอบโรแมนติกแบบไหน  อย่าเอกแต่โรแมนติกแบบคุณ 5.     ส่งโทรเลขอวยพรให้เขาหายไว ๆ เมื่อเขาเข้าโรงพยาบาลและคุณอยู่ไกลไม่สามารถมาเยี่ยมได้ในทันที 6.     คู่รักหลายคู่ส่งอีเมล์หรือแฟ็กซ์ แทนการเขียนจดหมาย แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรโรแมนติกไปกว่าจดหมายรักอีกแล้ว 7.     วางแผนสำหรับคืนแห่งความทรงจำ  โดยที่คุณสองคนต่างก็เล่าถึงความสุขที่ผ่านมาให้กันและกันฟัง 8.     เสียบที่คั่นหนังสือที่แสนจะโรแมนติกในหนังสือเล่นที่เขาอ่านค้างไว้ 9.     ซื้อตะกร้าและเสื่อปูนั่งสำหรับปิคนิก วางแผนไปปิคนิกกันอย่างน้อยปีละ 6 ครั้ง 10. ลูบไล้เส้นผมของเขาด้วยปลายนิ้วอย่างนุ่มนวล 11. ซื้อเปลยวนเอกไว้นอนเล่นในบ่าย วันที่อาหารดีๆ และคุณไม่อยากไปข้างนอกกัน 12. ถ้ากล้องของเขายังมี

12 เคล็ดลับคุยอย่างไรให้ยืนยาว

วิธีสนทนาเพื่อครองรักให้ยืนยาวนั้นไม่ได้อยู่ที่การฝืนอารมณ์ปล่อยภาษาดอกไม้ออกมาเท่านั้น  แต่ยังสามารถพูดโดยคำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย การคุยคือทางออกสำหรับทุกปัญหา  ถ้าคุณเห็นเขาอารมณ์เสียมา  ก็ให้ค่อยๆตะล่อม  พูดหวานๆหว่านล้อมให้เขารู้สึกดีขึ้น  แม้ใจจริงคุณอยากปล่อยให้เขาทุกข์ไปคนเดียวก็ตามที เมื่อรู้ถึงความสำคัญของการคุยแล้วก็ถึงการปฏิบัติล่ะ 1.     โปรดทราบ อารมณ์ไม่ดี  การบอกแจ้งแถลงไขให้แฟนทราบว่าเดี๊ยนกำลังหงุดหงิดนั้น  นอกจากจะเป็นวัคซีนป้องกันการทะเลาะเบาะแว้งแล้ว ยังสามารถเรียกคะแนนความเห็นใจให้กับคุณได้อีกโขเลยเชียว 2.     อารมณ์ไม่มีถูกหรือผิด  หยุดตัดสินว่าแฟนคุณควรดีใจ เสียใจ หรือไม่สมควรจะมีอารมณ์ในเรื่องนั้นเรื่องนี้  เพราะอารมณ์ก็คืออารมณ์ จะชี้ผิดถูกตรงไหนได้เล่า ถ้าเขาผิดหวังที่เงินเดือนกระเตี้องน้อยกว่าที่คิด  เชี่อว่าคุณหลายคนคงปลอบเขาว่า , ที่รักจ๋า แค่มีงานทำก็ดีถมไปแล้วอย่าคิดมาก , นักจิตวิทยาชี้ว่า เป็นคำตอบที่ไม่ได้ช่วยลดปลดเปลี้องความโกรธและความเจ็บช้ำที่เขาได้รับ แต่กลับเป็นการตัดสินว่าเขาไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะฉุนขนาดนี้ ทำไมไม่ลองพูดในทำนองว่า “

8 วิธีถนอมรักให้ยืนยาว

  “กว่าที่คน 2 คน จะรักกันได้ก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า”             ใครก็ไม่รู้พูดถึงการครองรักนี้ไว้ตรงใจดีเหลือเกิน เคยลองถามคนอื่นๆ ดูถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงยืนยันสนับสนุนท่วมท้นจากผู้มีประสบการณ์ว่า จริงของเขาค่ะ งานนี้ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม…ได้ยินอย่างนี้แล้วบรรดาคนโสดทั้งหลายก็อย่าเพิ่งขยาด กลัวความรักกันไปเสียหมดนะคะ ใจเย็นๆ ก่อน เพราะถึงการรักษาความรักไม่ให้จืดจางนั้นจะยาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียเลยซะทีไหน ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่ของคุณอบอวลไปด้วยความรัก ความสุข คุณและเขาคนนั้นก็ไม่ควรขาดเรื่องสำคัญต่อไปนี้… 1. ซื่อสัตย์ต่อกัน           เรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกันนั้น นับเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะสิ่งนี้หมายรวมไปถึง การให้เกียรติ ความไว้ใจ เชื่อถือศรัทธาระหว่างคนในบ้าน การโกหกหลอกลวงและไม่ซื่อตรงต่อกันนั้น เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวมากมายต้องแตกสลายมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลังก็อย่ารินอกใจกันกันเด็ดขาด 2. เปิดเผย จริงใจ           ความปรารถนาดีอย่างจริ

อาการทางจิตของคนมีรัก

อาการทางจิตของคนมีรัก อาการทางกายใดบ้างเป็นสัญญาณว่ากำลังมีรัก?  คำถามแบบนี้อาจชวนให้คุณสังเกตพฤติกรรมภายนอกของคนอื่น เช่นเห็นเขานั่งเหม่อลอยแม้ในเวลาสมควรตั้งใจมีสมาธิฟังครูสอนหรือฟังนายสั่ง แต่เมื่อถามเจาะจงลงไปว่าเป็น ‘อาการทางจิต’ แบบไหนบ้าง เป็นสัญญาณว่ากำลังมีรัก?  อย่างนี้มีสิทธิ์ชวนให้นึกถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวเองได้มากขึ้น เพราะคุณไม่รู้วาระจิตผู้อื่น จึงไม่อาจทราบว่าโลกภายในของแต่ละคนที่มีรักเป็นอย่างไร ในขณะที่สำรวจเข้ามาทราบภาวะจิตใจและอารมณ์ของตนเองได้ง่ายกว่า ตัวอย่างเช่นถ้าคุณถูกบังคับให้ตอบว่ารักใครสักคนไหม หากต้องชั่งใจเพื่อหาคำตอบที่แท้จริงเกินหนึ่งพริบตาเดียว แปลว่าดีกรีความรักที่คุณมีต่อคนๆหนึ่งยังต่ำอยู่ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ  อาการทะยานทางจิตที่พุ่งเข้าไปยึดเหนี่ยวคนๆนั้นไม่แรงพอ  หากแม้นว่าแรงพอแล้ว คุณจะตอบได้ชัดถ้อยชัดคำเหมือนเอาอีโต้ ฟันโชะเข้าที่หูคนถามทันที  ว่ารักหรือไม่รัก หากอ่านจิตเป็น คุณจะพบความวิจิตรพิสดารของความรักได้หลากหลายเหลือเชื่อ บางความรักทำให้จิตของคุณพุ่งแน่วไปที่คนๆหนึ่งด้วยความโลภอยากครอบครองกายใจของเขาไว้ในมือคุณคนเดียว อาก

เมื่อหนุ่มปิ๊งสาว เขามีอาการแบบไหนกันนะ

รูปภาพ
(อันนี้จริงๆน๊าคะทุกคน เราเจอมาแล้ว ตรงทุกข้อค่ะ ^^) 1. โทรหาคุณ           แน่นอนว่าเมื่อชอบก็อยากพูดคุย อยากได้ยินเสียง ถ้าหนุ่มคนนั้นโทรหาคุณบ่อย ๆ โดยไม่ได้มีเรื่องอะไรสลักสำคัญนักหนา นี่ก็ตีความได้ว่าเขาสนใจคุณอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ 2. ติดตามทุกการเคลื่อนไหนของคุณบนเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือกูเกิ้ล+           เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกดรับเขาเป็นเพื่อน หรือให้ยูสเซอร์สำหรับตามฟอลโลว์ แล้วพบว่าเขามักเข้ามาแสดงความคิดเห็นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตอบคอมเมนต์กลับในเฟซบุ๊คหรือกูเกิ้ล+ รีทวีตในทวิตเตอร์ หรือมาเงียบ ๆ แบบไม่แสดงตัว แต่คอยกดไลค์หรือ +1 ในรูปที่คุณโพสต์ สเตตัสที่คุณอัพเดท นี่ก็เป็นสัญญาณแน่ ๆ แล้วล่ะว่าพ่อหนุ่มไซเบอร์สตอล์กเกอร์คนนี้ กำลังแอบชอบคุณอยู่ 3. จดจำทุกเรื่องที่คุณเคยพูดได้           สองอาทิตย์ที่แล้ว คุณเคยพูดว่าชอบกินสปาเก็ตตี้ วันนี้เขาเลยชวนคุณไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารอิตาลี่ ที่มีเมนูปสาเก็ตตี้แสนอร่อย เห็นไหมว่าเขาใส่ใจและจดจำเรื่องราวกับคุณขนาดไหน อย่างนี้ไม่ให้คิดว่าชอบคงไม่ไหวแล้วล่ะ 4. หาโอกาสประกบติด ใกล้ชิดบ่อย ๆ           หากเขามักจะสัมผัสตัวคุณอยู่บ่อย ๆ อย่างจูงมือเ

จับผิด 19 คำ โกหก หน้าตายของผู้ชาย

"ชีวิตนี้ผมจะไม่ขอรักใครอีกนอกจากคุณ"   (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 90 คน) ใครได้ยินคำนี้อย่าหลงดีใจ เพราะเค้าสามารถรักคนใหม่ได้เมื่อต้องเลิกกันไปแล้ว "เธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักมากที่สุด"   (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 85 คน) แม้เค้าจะแทงกั๊กประมาณว่าถึงจะมีกิ๊กใหม่ในอนาคต เค้าก้อไม่สามารถรักเท่าที่รักเธอ ฟังดูก้ออาจจะเป็นไปได้แหะ "เราจะอดทนเป็นแฟนกันจนแต่งงานในอนาคต"   (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 95 คน) เค้าพูดด้วยความรู้สึกแบบเด็กๆที่ยังไม่ได้ผ่านสารพัดร้อยล้านเหตุ การณืที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้ความรักสะดุดเมื่อไหร่ก้อได้ "ผมไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อน"  (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 83 คน) ถ้าเค้าเป็นคนที่นิสัยยอมคน เค้าก้อจะยอมกับผู้หญิงทุกคนนั่นแหล่ะ "สิ่งที่ผมทำลงไป ผมพยายามทำดีที่สุดแล้ว "  (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 78 คน) ถ้าเกิดเค้าได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ต่อให้ผูหญิงคนนั้นหูหนวกหรือตาบอดยังไงก้อต้องรู้สึกได้ "ก็ผมเป็นของผมอย่างงี้มานานแล้ว"   (ชาย100คน โกหกเรื่องนี้ถึง 79 คน)

พจนานุกรมคำอันตราย ที่ควรรู้ไว้สำหรับคนมีคู่

(1) ดี,โอเค:       คำนี้ผู้หญิงใช้ปิดการโต้เถียงตอนที่เธอ มั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูกและถึงเวลาที่คุณจะต้องเงียบได้แล้ว.. (2) ห้านาทีนะ:       ถ้า เธอกำลังแต่งตัว นี่จะหมายถึงชั่วโมงครึ่ง     แต่ห้านาทีก็คือห้านาทีสำหรับคุณถ้าเธอเพิ่งยอมให้คุณดูบอลต่ออีกห้า นาทีแล้วค่อยไปช่วยเธอทำงานบ้าน (3) ไม่มีไร:       นี่คือความสงบก่อน พายุจะเข้า มันแปลว่า"มีอะไร"แน่ ๆ ขอให้เตรียมตัวได้เลย มันจะเป็นการโต้ เถียงที่เริ่มด้วย "ไม่มีไร" มักจะไปจบลงที่ "ดี,โอเค" (4) ก็เอาดิ,เอาเลย:        นี่เป็นคำท้า ไม่ใช่คำอนุญาต อย่าทะลึ่งทำอะไรลงไปเป็นอันขาด..! (5) ทำเสียง ชิ,ชิส์,ชริฯลฯ ออกมาดัง ๆ: มัน มีความหมายแน่นอน แต่มักจะทำผู้ชายเข้าใจผิด.. เสียงพวกนี้หมายความว่าเธอกำลังคิดว่าคุณแม่งซื่อบื้อเหลือทน และไม่เข้าใจว่าจะมาเสียเวลายืนเถียงกับคุณเรื่อง"ไม่มีไร"แบบนี้ทำไม (กลับ ไปดู "ไม่มีไร" ที่ข้อ 3) (6) ไม่เป็นไร: นี่คือสถานะอันตรายสุด ๆ ที่ผู้หญิงจะมีต่อผู้ชายแล้ว "ไม่เป็นไร"แปลว่าเธอต้องคิดดูก่อน อย่างนานและอย่างหนักว่าคุณต้องชดใช้อะไร   อย่างไร และเมื่อไหร่

นิสัยดี ๆ ที่คู่รักควรทำ

รูปภาพ
  อย่ารอจนถึงโอกาสพิเศษถึงจะแสดงออกซึ่งความรักของคุณ แต่บำรุงเลี้ยงชีวิตรักของคุณอย่างสม่ำเสมอในทุกวันด้วยวิธีการต่อไปนี้…              บอก "รัก"  กันอย่างน้อยวันละครั้ง คู่รักของคุณต้องการได้ยินคำนี้              อย่าหงุดหงิดไปกับเรื่องเล็ก ๆ  คุณจะปล่อยให้นิสัยไม่ดีของเขารบกวนคุณให้วอกแวก หรือจะยอมรับมันและหาทางเลี่ยงมันซะล่ะ ถ้าเขาชอบเปิดฝาหลอดยาสีฟันทิ้งไว้ ก็ซื้อแยกกันคนละหลอด เขาชอบทิ้งเสื้อผ้าเกลื่อนเหรอ เก็บมันซะ หรือไม่ก็ไม่ใส่ใจมัน              หายใจลึก ๆ เวลาโกรธ  อย่าพยายามพูดกันเวลาที่อารมณ์ไม่ดี หลบกันไปสักพักเพื่อจะได้ตั้งสติ คุณจะได้พูดคุยกันได้ว่าอะไรรบกวนจิตใจคุณ แทนการชี้หน้าด่าว่ากัน ที่จะทำให้เสียใจในภายหลัง              อย่าใช้จุดอ่อนของเขาหรือเธอโจมตีกัน...เด็ดขาด  สิ่งที่อาจดูไม่สลักสำคัญ จิ๊บจ๊อย หรือน่ารักในสายตาคุณ อาจเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับเขา รับรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับเขา และอย่าเอาไปพูดกับเพื่อน พ่อแม่ หรือใครเด็ดขาด และอย่าได้เอามันมาโจมตีเขาในภายหลังด้วย              นับถือคู่ของคุณ  อย่าพูดถึงเขาในทางไม่ดี เมื่อพูดถึงเขา ให้ความรักและนับถือเปล่ง