แน่ใจได้อย่างไรว่าเขาไม่หลอก
ตอนนี้คุณกำลังหลงรักเขาหน้ามืดตามัว
แล้วเขาก็อาจเป็นคนที่ถูกใจใช่เลยสำหรับคุณจริงๆน่ะแหละ
แต่จะทำยังไงดีถ้าชายเดียวในดวงใจ กลับเห็นคุณเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งของเขา
เขาจะมีคนอื่นมั้ย
ซึ่งเป็นคำถามที่พวกผู้หญิงมักถามตัวเองในบางช่วงชีวิตแล้ว “เขาจะมีคนอื่นมั้ย” ก็เป็นคำถามยอดฮิตอีกอย่างหนึ่งเมื่อความสัมพันธ์ดำเนินมาพักหนึ่ง
นักจิตวิทยาส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่ามีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่จะช่วยบอกได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนหลอกลวง
หรือไม่ (ภายใน 5 ปี) ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจ ลองเปรียบเทียบดูกับสัญญาณเตือน 10
ข้อต่อไปนี้
เชื้อไม่ทิ้งแถว
ความโกหกหลอกลวงก็เป็นมรดกตกทอดจากคนรุ่นพ่อ
นักจิตวิทยาเชื่อว่าผู้ชายมักจดจำและเรียนรู้ประสบการณ์ความไม่ซื่อสัตย์จากพฤติกรรมของพ่อแม่ตั้งแต่วัยเด็ก
ตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อของเขาเกิดนอกใจ แต่แม่ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
หรือให้อภัยแต่โดยดี
ผู้ชายคนนั้นก็อาจเชื่อว่าความไม่ซื่อสัตย์นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างหนึ่ง “ผู้ชายอาจใช้ความเจ้าชู้ของพ่อมาเป็นข้ออ้างสำหรับพฤติกรรมของตนเอง” “แต่อีกด้านหนึ่ง
ถ้าพฤติกรรมของพ่อทำให้แม่เสียใจมากๆ
ผู้ชายคนนั้นก็อาจเลือกการเป็นคนรักเดียวใจเดียวไปเลย” ยังไม่สายเกินไปสำหรับการเขียนประวัติศาสตร์ใหม่
แต่ระวังหน่อยนะ หากคนรักของคุณเป็นคนชอบคุยโม้เรื่องความเจ้าชู้เก่งกาจของพ่อ
เขาเคยนอกใจสาวอื่นมาก่อน
ถ้าเขาเคยนอกใจคนรักเก่ามาแล้วก็จงระวังให้จงหนัก
“ผู้ชายที่เคยทำเล่นๆ กับผู้หญิงมาแล้วครั้งสองครั้ง
มักจะทำเช่นนี้ซ้ำได้อีก เพราะเขารู้ดีว่าจะทำเล่นๆกับผู้หญิงได้อย่างไร
เขาไม่ต้องการผูกมัด
นั่นก็ชัดเจนพอแล้ว
ถ้าชายหนุ่มคนหนึ่งบอกคุณว่าเขายังไม่พร้อมจะตกร่องปล่องชิ้นด้วย
คุณก็ไม่ควรเชื่อว่าเขาจะซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดไป
เพราะนี้คือข้ออ้างที่ดีที่สุดที่เขาจะใช้เพื่อสลัดความสัมพันธ์ทางอารมณ์แบบถาวรกับใคร
นอกจากนั้นคนเรามักจะไม่ยอมรับเหตุผลเพียงข้อเดียวอย่างง่ายๆ ถ้าเขาไม่ต้องการ
แต่ไม่ว่าเหตุผลทั้งหลายแหล่ของเขาจะเป็นอย่างไรเขามักตัดสินใจจะเปิดโอกาสให้ตนเองไว้หลายๆทาง
ถ้าคุณเองไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบจริงจังก็แล้วกันไป
สนุกกับมันเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่อย่ากระโจนเข้าสู่ความสัมพันธ์นั้นด้วยความหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติเขาได้
แม้ว่าคุณอาจจะทำได้สำเร็จเหมือนกัน แต่ดูแนวโน้มแล้ว เห็นท่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหวังเสียมากกว่า
เขามีความลับกับคุณ
คุณไม่มีสิทธ์รื้อค้นข้าวของส่วนตัวหรือเปิดจดหมายของเขาอ่านก็จริง
แต่ถ้าความรักหวานขึ้นเป็นปกติดีอยู่
เขาก็ไม่ควรจะทำท่ามีพิรุธถ้าคุณเกิดถามขึ้นมาลอยๆว่า
มีใครไปกินข้าวกับคุณหลังเลิกงานบ้าง ถ้าคนรักของคุณรีบทำท่ากลบเกลื่อน
สัญญาณเตือนภัยกำลังสั่นระรัวเชียวล่ะ
ความซื่อสัตย์สำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์
ถ้าผู้ชายไม่มีอะไรจะต้องปิดบังซ่อนเร้นเขาก็ไม่น่ามีปัญหากะอีแค่บอกว่าเขาไปที่ไหนกับใคร
นักจิตวิทยาเชื่อว่าคุณน่าจะสงสัยเอาไว้หน่อย ถ้าคนรักเริ่มเลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ
ทำท่าลับล่อ หรือทำเป็นโกรธเมื่อคุณถามคำถามง่ายๆ ธรรมดาๆ “เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของคุณเถอะนะ” นี่คือคำแนะนำ “อย่าลังเลที่จะตั้งคำถามกับพฤติกรรมต้องสงสัยเวลาได้กลิ่นทะแม่งๆ
บอกว่าเรื่องธรรมดาชักจะไม่ธรรมดาขึ้นมาซะแล้ว
เขาชอบเล่นเกม
เรากำลังพูดถึงผู้ชายชนิดที่ชอบเล่นเกมกับอารมณ์ความรู้สึกของคุณ
ผู้ชายประเภทนี้มีรูปแบบความรักอย่างที่นักจิตวิทยาเรียกว่า รักแบบ “ludicW
ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักไม่สนใจจะมีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งเต็มที่กับใครเพียงคนเดียว
แต่ชอบมีเซ็กซ์กับคู่ควงไม่ซ้ำหน้า และชอบความสัมพันธ์ตนเป็นฝ่ายกำหนดมากกว่า
อย่าวางใจผู้ชายพวกนี้ และควรรีบผละจากเขาทันทีที่เริ่มรู้สึกผูกพัน “ผู้ชายพวกนี้ไม่ยอมลงแรงกับความสัมพันธ์ใดๆนานๆหรอก
แถมยังไม่มีความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์กับคู่รักของตนในแบบที่คนทั่วๆไป
รู้สึกต่อกันด้วยสิ” น่าเศร้าที่ผู้ชายเหล่านี้ชอบแสวงหาความตื่นเต้นของการมีความสัมพันธ์ใหม่ๆ
มากกว่าจะเสียเวลาผู้พันอยู่กับคนเพียงคนเดียว
เขาแก้ตัวเรื่องความเจ้าชู้นอกใจได้เรื่อยๆ
โชคร้ายหน่อยที่ผู้ชายบางคนเชื่อว่า
ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา
ผู้ชายเหล่านี้จะเถียงว่าแรงกระตุ้นทางชีวภาพนั้นมีพลังเข้มแข็งกว่าเหตุผล
โดยเปรียบเทียบตัวเองกับสิงโตและสัตว์อื่นๆที่มีคู่มากกว่าหนึ่ง
ที่แย่ก็คือสังคมไม่ได้เล่นบทโหดกับชายเจ้าชู้
ตรงกันข้ามผู้ชายจำนวนมากพากันทึกทักว่าการมีอะไรๆ
กับผู้หญิงอื่นนั้นเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับตราบเท่าที่ยังเก็บเป็นความลับเอาไว้ได้และไม่มีใครต้องเจ็บปวด
“สำหรับผู้ชายบางคนแล้ว
ความไม่ซื่อสัตย์มักเกิดขึ้นควบคู่กับอาการหลงตัวเอง ผู้ชายจำพวกนี้คิดว่าเขาไม่ควรปฏิเสธโอกาสที่มีมาถึง”
สุดท้ายแล้วผู้ชายที่มีทัศนคติแบบนี้มักไม่พร้อมที่จะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์แบสามีภรรยาเดียว
เขาชอบคบเพื่อนที่ชอบนอกใจ
อิทธิพลจากเพื่อนนับว่าสำคัญมากแม้แต่กับคนที่ดูท่าว่าจะแน่วแน่ที่สุดแล้วก็ตาม
อ๊ะ! ก่อนจะหัวเราะ ไม่เห็นด้วย ลองคิดย้อนไปถึงเสื้อยืดเข้ารูปในตู้ที่คุณซื้อเพียงเพราะเพื่อนที่ดีที่สุดบอกว่าคุณดูสวยปิ๊งเมื่อใส่เสื้อตัวนั้น
ความจริงก็คือผู้ชายที่ไม่ซื่อก็มักจะคบเพื่อนที่ไม่ซื่อด้วย
เพื่อนที่ป้อนความคิดพร้อมทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
เพื่อนที่คอยกระตุ้นให้คุณทำความฝันให้เป็นจริงสัญญาณข้อนี้มักมาในรู)ของคำแก้ตัวที่ว่า
“ผมเมา” หรือได้เจ้าพวกนั้นบังคับให้ผมทำ” ถ้าเขาเลือกคลุกคลีอยู่กับเพื่อนที่คิดว่าความไม่ซื่อสัตย์เป็นเรื่องโอเค
ก็อาจหมายถึงว่าเขายอมรับค่านิยมแบบนั้นด้วย
ดังนั้นจงระวังคนที่มีชี้เป็นประเภทชอบกดขี่ทางเพศกับคู่รักของตน
ลึกๆแล้วผู้ชายเหล่านี้อาจต้องการทำแบบนั้นเองก็เป็นได้
เขารู้สึกไม่มั่นคง
ความรู้สึกไม่มั่นคงมักผลักดันให้ผู้ชายที่มีกริยาสุภาพอ่อนโยนกลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมแบบดอนฮวนได
้เหมือนกัน
ขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่รู้สึกพอใจกับตัวเองและความสามารถใจเรื่องเพศของตนเองนั้น
นักจิตวิทยาเห็นว่าผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับความนับถือตัวเองอาจมีแนวโน้มจะนอกใจได้
เพราะนั่นเป็นวิธีที่จะยืนยันว่าตัวเองยังเป็นพึงปรารถนาในสายตาของผู้หญิงอยู่
เอเวอลีน ฟิลด์บอกว่า “คนที่ไม่สามารถดึงความนับถือตัวเองออกมาให้ปรากฏ
มักจะมุ่งไปหาความสัมพันธ์ที่จะช่วยเสริมความมั่นใจหรือความพึงพอใจให้ตนเองได้
ผู้ชายที่อ่อนแอจึงมีแนวโน้มจะถูกยั่วยวนได้ง่ายจากผู้หญิงที่ชอบล่าเหยื่อใหม่ๆ”
เขาชอบทำท่าเจ้าชู้
คนทุกคนก็คงชอบทำท่าเจ้าชู้กันบ้างบางขณะ
เพราะจะช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเองขึ้นได้ นี่ไม่ได้หมายถึงกรณีผู้ชายที่มีแฟนแล้วยังชอบทำอาการอยู่ไม่สุขกับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักใหม่ๆเป็ฯบางครั้งหรอกนะ
แต่เรากำลังพูดถึงผู้ชายที่ชอบแสดงอาการเกี้ยวชนิดที่ทำให้ใครๆ ต้องหันมามอง เช่น
การหัวเราะเสียงดังลั่นเกินเหตุกับเรื่องโจ๊กที่คุณเธอเพิ่งเล่าจบ
การบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เขาเคยพบ หรือการเอกมือลูบไหล่เธอไปมา
คุณนึกออกใช่มั้ย การลูบไล้ สัมผัส หรือการทำเป็นเบียดกระแซะน่ะ
งานวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้พบว่า ร้อยละ 40 ของผู้ชายที่ชอบนอกใจมักจะทำแบบนี้
เพราะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศเป็นอย่างดี และการทำท่าเฟลิตก็เป็นวิธีที่ทำให้เขารู้สึกว่าบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จที่ตั้งใจไว้
ผู้ชายที่ชอบทำตัวในลักษณะที่ทำให้ผุ้หญิงรู้สึกไม่สบายใจนั้นไม่ใช่ “คนสัตย์ซื่อ” ที่น่าวางใจนักหรอก
เขามีโอกาส
โอกาสนั้นมีความหมายมากกว่าความบังเอิญ
โดยเฉพาะสำหรับคู่รักที่ไม่ซื่อสัตย์ “ผู้ชายที่เดินทางไปทำงานที่อื่นบ่อยๆ
มีเหตุและโอกาสให้กลายเป็นคนหลายใจได้ง่าย” เมื่อถามว่าทำไมต้องมาหลอกกันด้วย
ผู้ชายมักจะยกเรื่องความไม่พึงพอใจเรื่องเพศมาอ้าง
แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดในเรื่องเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ที่พบได้บ่อยที่สุด
ข้อหนึ่ง เพราะอันที่จริงแล้วผู้ชายส่วนใหญ่ที่หลอกลวงกลังมองหาความสัมพันธ์ทางเพศกับคนอื่นมากกว่า
นักจิตวิทยาเห็ฯว่าความสัมพันธ์ที่มั่นคงที่สุดก็คือ
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ที่แต่ละคนหยิบยกแต่ละปัญหาขึ้นมาพูดคุยกันอย่างเปิดเผยและสัตย์ซื่อนั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น